วอร์เรน แบรดลี่ย์ ปีกตัวจี๊ดซึ่งช่วยทีมด้วยการยิงไป 12 ประตูในฤดูกาลหลังจากเกิดโศกนาฎกรรมมิวนิคจะถูกระลึกถึงเสมอ
ชื่อของวอร์เรน แบรดลี่ย์ อาจะไม่คุ้นหูแฟนบอลรุ่นปัจจุบันมากนัก แต่อดีตนักเตะผู้ได้รับความนิยม จากไปด้วยวัย 73 ปี ก็มีบทบาทสำคัญไม่น้อยในประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้เช่นกัน
แบรดลี่ย์ เกิดที่ไฮด์, เชสเชียร์ (ปัจจุบันคือเกรท แมนเชสเตอร์) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 1933 เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมโรงเรียนในท้องถิ่น ไฮด์ แกรมม่า สคูลพร้อมกับเพื่อนๆ ในเชสเชียร์
ตอนยังเป็นวัยรุ่น เขาได้รับการจับตามองในฐานะดาวรุ่งในทีมนอกลีกอย่าง บิชอบ โอคแลนด์ ซึ่งเขาได้แชมป์เอฟเอ คัพ สมัครเล่นไปสองครั้งด้วยกัน ครั้งแรกเมื่อปี 1956 ในนัดชิงกับทีมโครินเธียน คาสชวล (ลงสนามในนัดรีเพลย์ที่สนามอาเรสัม ปาร์ค ของมิดเดิ้ลสโบรห์ ซึ่งทีมบิชอบ โอคแลนด์ก็เอาชนะไปได้ 4 – 1) แล้วในปีถัดมาสโมสรก็คว้าแชมป์ได้สามครั้งรวด ด้วยการเอาชนะวีคอมป์ วันเดอร์เรอร์ส ไป 3 – 1 ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 90,000 คนที่เวมบลีย์ ซึ่งวอร์เรน ก็สามารถทำได้หนึ่งประตูเช่นกัน นอกจากนั้นเขายังติดทีมชาติอังกฤษชุดสมัครเล่นไป 11 ครั้งด้วยกัน
วอร์เรนเข้าร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับ ดีเรก เลวิน และบ็อบ ฮาร์ดดิสตี้ เพื่อนร่วมทีมบิชอบ โอคแลนด์ หลังจากที่เกิดโศกนาฎกรรมมิวนิค เพื่อนของเขาทำได้เพียงแค่ลงเล่นทีมสำรอง แต่วอร์เรน กลับสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม
ด้วยลูกเปิดที่แม่นยำ วอร์เรนสามารถทำประตูได้ด้วยตัวเอง และเขาก็ทำได้ถึง 12 ประตูในฤดูกาล 1958/59 ที่แมนฯ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยอันดับที่สองตามหลังวูล์ฟส์ ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมที่พบกับอิตาลี แล้วก็ได้หมวกทีมชาติอีกสองใบในการไปทัวร์ที่อเมริกาใต้
ฤดูกาลถัดมาวอร์เรน ก็ยังยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ได้อยู่ แต่ต่อมาก็ค่อยๆ ถูกลดบทบาทลง และในเดือนมีนาคม 1962 เขาก็ถูกปล่อยตัวฟรีไปให้กับทีมบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างบิวรี่ หลังจากนั้นเขาก็ลงเล่นให้ทีมนอกลีกอย่าง นอร์ทวิช วิคตอเรีย, แมคเคิลสฟิดล์ ทาวน์ และได้รับเลือกให้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมตลอดกาลของสโมสร และบังกอร์ ซิตี้
หลังจากรีไทร์ วอร์เรน เบนเข็มไปด้านการศึกษา ซึ่งก็ทำได้ดีถึงขนาดก้าวขึ้นไปเป็นอาจารย์ใหญ่
ในสมัยนั้น วอร์เรนถือว่าเป็นปีกที่จี๊ดจ๊าดคนหนึ่ง สร้างความปวดหัวให้กองหลังในการที่จะหยุดเขามาก และถ้ามีกองหลังขาโหดรายใดประสงค์จะหยุดเขาด้วยความรุนแรง เขาก็เตรียมป้องกันตัวเองด้วยการใส่ที่หุ้มข้อเท้าเรียบร้อย
วอร์เรน มีบทบาทกับแมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงหลังๆ ด้วยการทำงานที่ สมาคมอดีตผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด Association of Former Manchester United Players (AFMUP) ด้วยตำแหน่งหนึ่งในผู้บริหาร ซึ่งก็ต้องเสียสละเวลามากมายในการตอบคำถามทางโทรศัพท์, เขียนจดหมาย
และช่วย AFMUP จัดแข่งกอล์ฟและนัดเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งการทำงานอย่างทุ่มเทและเสียสละคงจะยากที่จะหาใครมาทดแทน
ทุกคนที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และชมรมเรด อาร์มี่ แฟนคลับ ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัว และเพื่อนๆ ทุกคนของวอร์เรน ในช่วงเวลาอันเศร้าสลดนี้
Eric the King
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC